“ศาสตร์และศิลป์ในการบริหารธุรกิจทั้ง Hard Business และ Soft Business คือการสร้างผู้นำให้มีในทุกระดับ”
คุณยุทธชัย ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการในเรื่องของศาสตร์และศิลป์ในการบริหารไว้ว่า ต้องเริ่มจากการเข้าใจธุรกิจแต่ละธุรกิจก่อนว่ามีการทำงานอย่างไร ต้องการอะไร และการสร้างบุคลากรขึ้นมาในแต่ละบริษัทเพื่อร่วมกันบริหาร โดยที่เจ้าของยังคงต้องเข้ามามีส่วนร่วมอยู่ด้วย ไม่ได้ปล่อยทั้งหมด แต่ความรู้และความเชี่ยวชาญชำนาญในการดำเนินธุรกิจนั้นๆ จะต้องมีคนที่เป็นมืออาชีพเข้ามาทำ อย่างกลุ่มธุรกิจด้านงานวิศวกรรม ซึ่งคุณยุทธชัยไม่ได้จบวิศวะ แต่มีลูกน้องที่เป็นวิศวะมาร่วมทำงาน
ที่อิตัลไทยคุณยุทธชัยมีผู้นำที่พยายามจะสร้างขึ้นมาในแต่ละระดับต่างๆ เพื่อเข้ามาดูแลธุรกิจร่วมกัน มีการทำ Training and Development Program มี Road map มีแผน Succession Plan ที่ชัดเจน ในช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมาได้พยายามที่จะสร้างแพลตฟอร์มในการที่จะสร้างเรื่อง Talent Society รวมถึงการพัฒนาและอบรมกลุ่ม Top Management อย่างต่อเนื่อง
การทำ Training & Development คุณยุทธชัยให้ความสำคัญเพราะมองเป็น Long Journey ไม่ใช่แค่ Sprint แต่มันเป็น Marathon ในการสร้างคน เพราะว่า “สร้างบ้าน สร้างสะพานมันก็สร้าง ถ้ามีเงิน มีคน มันก็สร้างได้ แต่การที่จะ Operate ให้ธุรกิจมันเดินไปได้ในระยะยาว ต้องเน้นในการสร้างคน และสร้าง Culture ขององค์กรที่จะต้องมีรากฐานที่แข็งแรง”
ด้วยธุรกิจอิตัลไทยอยู่มา 60 กว่าปีแล้ว มีรากฐานที่ดีมีทุนที่ดี คุณยุทธชัยมองว่าทำอย่างไรที่ทำให้ต่อยอดได้ เพื่อที่จะบอกว่าทุนที่มีมันไม่หายไป เพราะถ้าใช้ทุนเก่าไปเรื่อยๆ ไม่ได้สร้างต่อมันก็หมดได้ ซึ่งคุณยุทธชัยและทีมบริหาร ให้ความสำคัญอย่างยิ่งในการสร้างทั้ง Good View คำว่า อิตัลไทย สร้าง Perception แล้วก็สร้างกำไรให้กับกลุ่มบริษัท ควบคู่กันไปมาอย่างต่อเนื่อง
สำหรับการสร้างความหลากหลายธุรกิจที่ตั้งอยู่บน Hard Business และ Soft Business เป็นการบริหารจัดการเรื่องของ Risk Management นั้น คุณยุทธชัย ได้ให้ความเห็นว่าเป็นรากฐานธุรกิจที่ผู้ต่อตั้ง คือ คุณหมอชัยยุทธ ได้วางไว้ โดยผูกกับ GDP ของประเทศไทย ซึ่ง Hard Business คือ เรื่องของการก่อสร้าง ถ้าประเทศไทยจะโตขึ้น งาน Infrastructure ก็จะมีที่ต้องขยายเพิ่ม ซึ่งก็คือมี Demand ที่ตึกรามบ้านช่องต้องมีการทุบแล้วสร้างใหม่ ส่วน Soft Business คุณยุทธชัย กล่าวว่ามันคือ ธรรมชาติของคนไทย ซึ่ง GDP ของประเทศไทยก็ Drive โดย Hospitality เยอะมาก และมันก็คงจะดำเนินต่อไปเช่นนั้นเพราะประเทศไทยเป็น Hub ของ Southeast Asia จริงๆ ในการที่จะดึง Tourist เข้ามา และคนในประเทศไทยเอง รวมถึงวัฒนธรรมของเรา มีเรื่องของ Service Mind ในการที่จะให้บริการให้ดีที่สุด แล้วพยายามจะทำให้คนที่มาเยี่ยมประเทศเรามีความประทับใจ ซึ่งทั้ง 2 รากฐานที่ผู้ก่อตั้งวางไว้นี้ คุณยุทธชัย ให้ความสำคัญที่จะต่อยอดในการที่จะทำอย่างไรให้สามารถขยายฐานในการที่จะรับตลาดแล้วสร้างรายได้ได้มากขึ้น
“การต่อยอดธุรกิจตั้งอยู่บนเรียนรู้จากสิ่งที่ผิดพลาด”
คุณยุทธชัยได้เล่าให้ทางรายการฟังว่า ได้เข้ามารับช่วงดูแลอิตัลไทยต่อจากคุณพ่อเมื่อตอนอายุแค่ 24 ปี โดยในช่วง 5-6 ปีแรก ได้ลองผิดลองถูก โดนคนลองของ โดนคนหลอกก็มี ซึ่งคุณยุทธชัยมองว่านี่ก็เป็นส่วนหนึ่งของการที่จะเรียนรู้ เพราะเชื่อว่า “ถ้าเราไม่เคยทำผิด เราก็จะไม่ฉลาดขึ้นสักที แต่ทำผิดแล้วเรียนรู้จากการทำผิด แล้วอย่าผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า” ในการเรียนรู้ของคุณยุทธชัยส่วนหนึ่งคือเรื่องของการเลือกคนเข้ามาร่วมงาน แล้วสร้าง Chemistry ในการที่จะทำงานร่วมกัน เพื่อท้ายที่สุดมันคือการนำไปสู่คำว่า Share Ownership
ซึ่งการเลือกคนในมุมมองคุณยุทธชัย ไม่ได้ดูแค่การนำ Know-how มาทำงานร่วมกันเท่านั้น แต่มองลึกไปกว่านั้นในเรื่องของการจะทำอย่างไรที่จะทำให้บริษัทมีรากฐานที่แข็งแรง มี Recurring Income มี Layer ของคนที่จะทำงานเพื่อสนับสนุนให้ธุรกิจต่างๆ มีความต่อเนื่องในการทำงาน
คุณยุทธชัย เชื่อว่าการเรียนรู้นี้ไม่มีวันหยุด รวมถึงความสำเร็จก็เป็นอะไรที่ฉลองได้ไม่นาน อย่างที่หนังสือของท่านประธานอาวุโสเครือซีพี ได้กล่าวไว้ซึ่งเป็นเรื่องที่เห็นด้วยว่าจริง ดังนั้นสำหรับคุณยุทธชัย ความต่อเนื่องในการที่จะ Challenge ลูกน้อง แล้วหาช่องทางและโอกาสที่จะพัฒนาพวกเขาจึงเป็นสิ่งที่คุณยุทธชัยทำอยู่โดยตลอด เพราะว่าตลาดธุรกิจที่อิตัลไทยดำเนินการอยู่ทั้งสองกลุ่มธุรกิจมีการแข่งขันกันหนักมาก โดยเฉพาะตลาดธุรกิจก่อสร้าง และตลาดฮอสพิทาลิตี้ เพราะว่ามันเป็นตลาดเปิด ไม่ใช่ตลาดที่ตายตัวอย่างการขายน้ำขายไฟเข้ากริด
“การสร้างคนการสร้างทีม คือ การ Go To Wealth ของอิตัลไทย”
คุณยุทธชัย มองว่าแนวคิดในการ Go To Wealth เป็นเรื่องของ “การสร้างคนการสร้างทีม” ด้วยความเชื่อในเรื่องของการทำงานเป็นทีม และการสร้าง Leader ขึ้นมา ซึ่ง Leader ในที่นี้สามารถมีได้ในทุกระดับ โดยคนที่เป็นผู้นำได้ต้องเป็นคนที่มี Accountability, Economic แล้วก็ต้องเข้าใจเรื่อง Commercial ของธุรกิจนั้นๆ และท้ายที่สุดต้องมี Share Ownership ด้วย สำหรับองค์กรอิตัลไทยซึ่งเป็นองค์กรที่อยู่ในเมืองไทยมานาน มีเจ้าของเป็นคนไทย โจทย์คือการทำอย่างไรที่จะให้คนรุ่นต่อไปที่จะเข้ามาทำงานในองค์กรของอิตัลไทยสามารถสืบต่อหรือต่อยอดธุรกิจที่ทำไว้ได้ ซึ่งสิ่งนี้เป็นเป้าหมายของคุณยุทธชัยที่ต้องการสร้างคนที่ใช่ และพอดีกับองค์กรในอิตัลไทย เพื่อสร้างทีมงานที่แข็งแกร่งขึ้นมาช่วยขยายธุรกิจ และช่วยสร้างให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างมั่นคงต่อไป