Work from Home กันมาพักใหญ่ มีใครบ้างที่เริ่มรู้สึกเบื่องาน หรือเริ่มไม่รู้สึกสนุกไปกับงานที่เคยทำเหมือนทุกที รู้สึกว่างานจำเจ ไม่ท้าทายหรือได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ อีกแล้ว…อิตัลไทยขอแนะนำให้คุณเปลี่ยน! เพราะความรู้สึกเหล่านี้เรียกได้ว่าคุณกำลังเข้าสู่ภาวะ Burnout Syndrome
ภาวะหมดไฟในการทำงาน (Burnout Syndrome) เป็นภาวะที่เกิดจากวิถีชีวิตของคนเปลี่ยนไป ต้องคอยติดตามความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นต่างๆ อยู่ตลอดเวลา ประกอบกับรูปแบบการทำงานปัจจุบันแบบ 24/7 กลายเป็นเรื่องปกติที่ทุกคนทำกัน ยิ่งมาเจอกับการทำงานช่วง WFH ด้วยแล้ว ยิ่งทำให้เส้นแบ่งระหว่างชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัวหายไป ซึ่งนั่นทำให้ผู้คนเคร่งเครียดและกดดันอยู่กับการทำงานตลอดเวลา จนส่งผลต่อความสุขในการใช้ชีวิตประจำวัน จนกระทั่งเกิดภาวะ Burnout ในที่สุด
แต่อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเราจะรู้สึกเบื่อหน่ายจากการทำงานมากแค่ไหน เราก็คงจะไม่สามารถทิ้งความรับผิดชอบที่มีไปได้ เพราะชีวิตยังคงต้องดำเนินต่อไป แต่จะมีวิธีอะไรบ้างทีจะมาช่วยให้เราหลุดออกจากความรู้สึกแย่ๆ เหล่านี้ได้
ถ้าคุณรู้ตัวว่าเข้าสู่ภาวะ Burnout Syndrome แล้ว อิตัลไทยขอแนะนำให้คุณลองเปลี่ยนพฤติกรรมในแต่ละวันดู เพราะนอกจากจะช่วยให้คุณหลุดออกจากภาวะหมดไฟได้แล้ว แต่ยังช่วยเพิ่มความสุข และประสิทธิภาพในการทำงานได้อีกด้วย
ชาร์จพลังกายและใจด้วยการพักผ่อน
เพื่อที่จะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในระยะยาว หากเมื่อคุณเริ่มรู้สึกว่าคิดงานไม่ออก ให้หากิจกรรมอะไรก็ตามที่ช่วยให้คุณสามารถห่างจากคอมพิวเตอร์หรือโต๊ะทำงาน เพื่อไม่ให้กลับไปนึกถึงเรื่องงานอีกครั้ง วิธีการนี้เป็นการพักสมองสักครู่ จะช่วยให้สมองปลอดโปร่งและสดชื่น
วางสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์สื่อสารบ้างก็ดี
ลองเอาสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์สื่อสารไปไว้ไกลตัวบ้างหลังหมดเวลาทำงาน ทั้งนี้เพื่อช่วยให้เราได้เบรคจากการทำงานและได้ใช้เวลาอยู่กับการพักผ่อน หรือถ้าอดใจไม่ได้ ลองตั้งเงื่อนไขกับตัวเองว่าหลังเลิกงานแล้วจะให้ตัวเองเข้าถึงเรื่องงานได้อีกแค่ไหน เพียงเท่านี้ก็จะสามารถแบ่งชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัวออกจากกันได้อย่างลงตัว และพร้อมตื่นเช้ามาทำงานในวันใหม่ด้วยความสดชื่น
หากิจกรรมสนุกๆ ทำ เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ
หากยังจดจ่อและหักห้ามใจไม่ให้ทำงานในเวลาพักผ่อนไม่ได้สักที ลองหากิจกรรมสนุกๆ หรืองานอดิเรกเล็กๆ ทำ เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจออกจากงาน ในบางครั้งการนอนพักผ่อนเฉยๆ ก็ยังอาจทำให้นึกถึงเรื่องงานที่ต้องสะสางได้ทุกเมื่อ ดังนั้นหากเอาใจไปจดจ่ออยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งเป็นเวลานาน เรื่องงานที่เคยยากต่อการปล่อยวาง ก็จะหายไปจากสมองของอย่างง่ายดาย
ค้นหาจุดมุ่งหมายในการทำงาน และใช้มันปลุกไฟในตัว
หากความรับผิดชอบต่องานขัดขวางไม่ให้ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ ก็อาจจะถึงเวลาที่ต้องถามตัวเองแล้วว่า สิ่งที่กำลังทำอยู่ตอนนี้สำคัญต่อชีวิตมากแค่ไหน เมื่อค้นพบเป้าหมายและความสำคัญของงานที่ทำแล้ว จงใช้สิ่งนั้นเป็นแรงผลักดัน และปลุกไฟในการทำงานให้ลุกโชนอีกครั้ง ให้คิดเสมอว่าวันรุ่งขึ้นจะต้องทำอะไรบ้างเพื่อเข้าใกล้เป้าหมายที่ตั้งไว้ให้มากกว่าเดิม แต่อย่าลืมว่าเราสามารถมุ่งมั่นและตั้งใจพุ่งชนเป้าหมายได้เพียงชั่วคราวเท่านั้น เมื่อเราพยายามอย่างหนักจนกระทั่งรู้สึกไปต่อไม่ไหว ก็ถึงเวลาที่ต้องพักร่างกายและจิตใจให้กลับมาแข็งแรงเหมือนเดิมก่อน มิฉะนั้น ภาวะ Burnout Syndrome อาจจะทำให้เราไปไม่ถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้เลยก็ได้
อย่าฝืนทำงานต่อ หากสิ่งที่เป็นสาหัสกว่า ภาวะ Burnout Syndrome
หากเรารู้สึกเบื่อหน่าย และเหนื่อยล้าทั้งกายและใจ แต่ยังสามารถทำงานต่อได้เป็นปกติ นั่นเป็นสัญญาณของภาวะหมดไฟในการทำงาน แต่ถ้าหากรู้สึกเบื่อหน่ายและเหนื่อยล้าจนกระทั่งไม่สามารถทำงานได้อีกต่อไป นั่นอาจหมายความว่า ถึงเวลาที่เราจะต้องพักผ่อนและดูแลรักษาสุขภาพอย่างจริงจัง และออกจากงานที่ทำเพื่อก้าวสู่เส้นทางใหม่ที่เหมาะสมมากกว่า
ที่อิตัลไทย เราสนับสนุนให้พนักงานของเราแบ่งเวลางานและเวลาส่วนตัวอย่างสมดุลย์ เพื่อใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข และพร้อมมาทำงานด้วยความคิดบวก และความมุ่งมั่น สร้างบรรยากาศการทำงานให้เต็มไปด้วยความสุข และความสนุกทั้งต่อตัวเองและเพื่อนร่วมงาน
ที่มาเนื้อหา: Techsauce Thailand